หากจะพูดถึงทีมฟุตบอลชายบราซิล ในโอลิมปิก 2020 ก็ยอมรับเลยว่าพวกเขาคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสมศักศรีดิ์และสมควรที่จะได้รับมันมา และในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกหนนี้ พวกเราก็ได้เห็นฟอร์มของนักเตะแต่ละคนที่แจ้งเกิดได้ในโอลิมปิก และโดยเฉพาะบรรดานักเตะทีมชาติบราซิลซึ่งมีแต่นักเตะฝีเท้าดีๆทั้งนั้น ทั้ง ริชาลิซอน ที่มาในตำแหน่งกองหน้าตัวสำคัญ และความหวังของทีม แดนี่ อาเวส นักเตะตัวเก๋าของทีมที่แม้จะอายุ 38 แต่ยังเก๋าและฟิตสุดๆ และ คนอื่นๆ แต่ที่เราจะโฟกัสกันในครั้งนี้ก็คือ มัลคอม นักเตะผู้ที่เรียกได้ว่าโอลิมปิกหนนี้เขากลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมันจะเป็นเพราะอะไรนั้น ก็มาติดตามกันได้เลย
มัลคอม ดาวรุ่งพุ่งที่ยังแรงไม่พอ
สำหรับ มัลคอม เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งปีก เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งที่ประเทศบราซิลบ้านเกิด โดยร่วมค้าแข้งกับสโมสรโครินเคียนทีมดังอีกหนึ่งทีมของบราซิล โดยเข้าร่วมเมื่อปี 2014 ก่อนที่จะโชว์ผลงานสุดยอดในช่วงที่ค้าแข้งที่บราซิลและได้ย้ายไปเล่นที่ยุโรปเพราะฟอร์มที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนทีมใหญ่ๆจับตามองหลายทีมด้วยกันแต่เขาเลือกไปค้าแข้งยังประเทศ ฝรั่งเศส กับสโมสร บอร์กโดซ์ สโมสรดังแห่งลีกเอิง ในปี 2016 และก็ยังสร้างผลงานได้เป็นอย่างดีและเพียง 2 ปี หลังจากนั้น ที่เขาได้บ่มเพาะฝีเท้าจนเข้าขั้น ก็ถึงเวลาไปแจ้งเกิดกับทีมใหญ่กว่านี้ซักที โดยเขาได้ย้ายไปอยู่ บาร์เซโลน่า ยักษ์แห่งลาลีกาสเปน ด้วยค่าตัวกว่า 41 ล้านยูโร ด้วยสัญญา 5 ปี แต่เมื่อมาอยู่ที่ บาร์เซโลน่า เขากลับทำผลงานได้แย่ลงไปและเพียงปีเดียวเขาก็ต้องถูกขายออกไปอยู่กับ เซนิต เซ้น ปีเตอร์เบิร์ก ด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร และอยู่ค้าแข้งจนปัจจุบันและได้ถูกเรียกตัวลุยศึกโอลิมปิกกับทัพบราซิลหนนี้ด้วยในฐานะตัวสำรอง
แม้เป็นตัวสำรอง มัลคอม ก็กลายเป็นคนสำคัญในโอลิมปิก 2020
โดย มัลคอม ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสู่สนามในช่วงครึ่งหลังนัดชิงชนะเลิศ โอลิมปิก 2020 กับทีมชาติสเปน โดยเขาสามารถยิงประตูได้ในนาทีที่ 109 ช่วงต่อเวลา เอ็กซ์ตร้าไทม์ ด้วยการหลุดเดี่ยวและใช้ความแข็งแกร่งทำให้กองหลังสเปนเบียดเอาไม่ลง และซัดด้วยซ้ายกลายเป็นประตูชัยส่งบราซิลขึ้นแท่นคว้าเหรียญมาครองได้สำเร็จ และก็ทำให้เขาได้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งหนึ่ง