ปัจจุบัน โธมัส มุลเลอร์ นั้นลงสนามให้กับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ไปแล้วมากกว่า 550 เกม และยังยิงประตูได้มากกว่า 200 ประตูอีกด้วย โดยโธมัสมุลเลอร์ นั้นเป็นนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่สมัยเป็นระดับเยาวชน โดยเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสโมสรในปี 2000 ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวก็ร่วมทีมคว้าแชมป์มากมายกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ลีกสูงสุดของเยอรมัน บุนเดสลีกา จำนวน 9 สมัย ,แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล จำนวน 6 สมัย, แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย และ แชมป์สโมสรโลกอีก 2 สมัย แต่นักเตะจอมเก๋ารายนี้ก็ยังคงมีความกระหายที่อยากจะคว้าแชมป์กับทีม
โธมัส มุลเลอร์ กับไฟที่ยังครุกรุ่น
โดยปัจจุบันโธมัส มุลเลอร์ นั้นมีอายุ 32 ปี แล้ว ซึ่งก็อยู่ในช่วงปลายการค้าแข้ง แต่ตัวของเขานั้นก็ยังวางแผนเกี่ยวกับการเป็นนักฟุตบอลซึ่งได้วางแผนเอาไว้ว่าน่าจะไม่เกินอีก 4 ปี ที่เขาจะทำการแขวนสตั๊ดกับสโมสรเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็น One Man Club อีกหนึ่งคนของโลกฟุตบอล ซึ่งโธมัส มุลเลอร์ ก็ได้ออกมากล่าวเอาไว้ได้น่าสนใจ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าหากสโมสรตัดสินใจที่จะขายตัวเขาออกไปจากทีม ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด แต่เขาเชื่อว่าเขาสามารถที่จะเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ไปได้อีกหลายปี เพราะว่าเวลานี้เขาก็มีผลงานกับทีมที่ดี และ ถือได้ว่ามันเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ตัวเขาได้ ว่าจะยังสามารถยืนหยัดในลีกระดับสูงสุดได้
โธมัส มุลเลอร์กับช่วงเวลาที่ต้องคิดถึงการโยกย้าย
แม้ว่า โธมัสมุลเลอร์ ต้องการที่จะเป็นนักฟุตบอลวันแมนคลับกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค แต่ช่วงเวลาหนึ่งนั้นเขาก็มีช่วงเวลาที่เกือบจะต้องพิจารณาที่จะย้ายออกจากทีมไป เนื่องจากว่าไม่ค่อยได้ลงสนาม โดยตอนนั้นกุนซือของทีมคือ นิโก้ โควัช ซึ่ง โธมัส มุลเลอร์แทบจะไม่ได้มีโอกาสลงสนามเลย ช่วงเวลานั้นเขาได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตอย่างหนักว่าจะอยู่หรือจะย้ายออกจากสโมสรที่เขารักนี้ แต่หลังจากที่ โควัช ถูกไล่ออกและกุนซือคนใหม่ท่าน ฮันซี่ ฟลิก เข้ามาคุมทีมโธมัส มุลเลอร์ก็ได้กลับมาโลดแล่นในสนามอีกครั้ง และสามารถระเบิดฟอร์มอันสุดยอดออกมาได้อีกครั้ง และสามารถพาทีม บาเยิร์น มิวนิค ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ต่างๆได้มากมาย และนอกจากโธมัส มุลเลอร์จะเป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถแล้ว เขายังเป็นรุ่นพี่ในทีมที่ดีอีกด้วย โดยที่คอยชี้แนะบรรดานักฟุตบอลดาวรุ่งในทีม ซึ่งก็จะขึ้นขึ้นมาทดแทนพวกเขาได้ในอนาคต
#โธมัสมุลเลอร์ #บาเยิร์นมิวนิค #คีย์แมนคนสำคัญ